จะเรียนหลักสูตรอินเตอร์ต้องทำอย่างไร
ในที่นี้จะขอสรุปคุณสมบัติที่ผู้สมัครจะต้องมีในการเข้าเรียนหลักสูตรอินเตอร์ในมหาวิทยาลัยซึ่งโดยทั่วไปแล้วมหาวิทยาลัยจะกำหนดคุณสมบัติไว้ 3 ข้อดังนี้
- จบการศึกษาระดับมัธยมปลายหรือเทียบเท่า (High School Equivalency) ซึ่งคุณสมบัตินี้เหมือนกับการสมัครเรียนในหลักสูตร ภาษาไทย คำว่า “เทียบเท่า” หมายถึงหากผู้สมัครมีวุฒิการศึกษาจากต่างประเทศที่กระทรวงศึกษาธิการยอมรับว่าเทียบเท่ากับวุฒิการศึกษาในระดับมัธยมปลายของไทย เช่น IGCSE, A-Level, GED หรือ IB Diploma ก็สามารถนำไปยื่นได้ ส่วนนักเรียนที่เรียนในระดับชั้นสูงสุด เช่น ม.6 หากวันที่หลักสูตรเปิดรับสมัครยังไม่มีใบผลคะแนนออกมา (เนื่องจากยังไม่ปิดเทอม) ให้ใช้ผลคะแนน 5 เทอมในระดับม.ปลายยื่นไปก่อนได้
- ผ่านการทดสอบวิชาภาษาอังกฤษ (English Proficiency) เนื่องจากการเรียนหลักสูตรอินเตอร์ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ดังนั้นผู้สมัครจึงต้องแสดงความสามารถในส่วนนี้ให้เห็น บางหลักสูตรอาจมีการจัดสอบภาษาอังกฤษเอง บางหลักสูตรอนุญาตให้ผู้สมัครยื่นผลสอบภาษาอังกฤษที่เป็นที่นิยม เช่น TOEFL, IELTS, CU-TEP หรือ TU-GET
- ผ่านการทดสอบวิชาพื้นฐานและ/หรือวิชาเฉพาะ (Standardized Test) นอกจากสอบวิชาภาษาอังกฤษแล้ว หลักสูตรหลายๆหลักสูตรยังต้องการให้ผู้สมัครสอบวิชาพื้นฐานซึ่งมักจะเป็นวิชาคณิตศาสตร์เพื่อทดสอบว่าผู้สมัครมีไหวพริบและทักษะการแก้ปัญหาดีหรือไม่ ข้อสอบในกลุ่มนี้ก็เช่น SAT หรือ CU-AAT นอกจากนี้ในบางหลักสูตรอาจมีการขอให้สอบวิชาเฉพาะทาง เช่น ฟิสิกส์ (สำหรับหลักสูตรทางวิศวกรรมศาสตร์) หรือการ Drawing (สำหรับหลักสูตรทางสถาปัตยกรรมศาสตร์) หรือในบางกรณีคือหลักสูตรนั้นๆอาจมีการออกข้อสอบเองก็เป็นได้
การสมัครเรียนหลักสูตรอินเตอร์นั้น มีขั้นตอนที่ค่อนข้างชัดเจน โดยผู้สมัครต้องผ่านการทดสอบในแต่ละกลุ่มให้ได้ตามเกณฑ์ที่แต่ละหลักสูตรกำหนด ทั้งนี้ผู้สมัครไม่ต้องสอบให้ผ่านทุกวิชาในแต่ละกลุ่ม แต่เลือกสอบเฉพาะตัวใดตัวหนึ่งให้ผ่าน (ลองตรวจสอบกับหลักสูตรให้ดีก่อนว่าวิชาที่จะสอบนั้นทางหลักสูตรอนุญาตให้ใช้ยื่นสมัครได้หรือไม่) เมื่อผ่านการทดสอบทั้งหมดแล้ว ก็เหลือเพียงการสอบสัมภาษณ์เท่านั้นก็จะได้เป็นเด็กอินเตอร์สมใจ
ตัวอย่างเช่น หลักสูตรอินเตอร์ทางด้านบริหารธุรกิจของจุฬาฯ หรือที่รู้จักกันในชื่อหลักสูตร BBA จุฬาฯ กำหนดคุณสมบัติผู้สมัครเข้าศึกษาต่อไว้ดังนี้
1. จะต้องจบการศึกษาระดับมัธยมปลายหรือเทียบเท่า
2. จะต้องมีผลสอบภาษาอังกฤษตัวใดตัวหนึ่ง ได้แก่ TOEFL ไม่ต่ำกว่า 79 หรือ CU-TEP+Speaking ไม่ต่ำกว่า 111 หรือ IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.5
3. จะต้องมีผลสอบวิชาพื้นฐานตัวใดตัวหนึ่ง ได้แก่ SAT ไม่ต่ำกว่า 1,170 หรือ CU-AAT ไม่ต่ำกว่า 1,100
โดยมีนักเรียน 2 คน คนแรกคือนายวิชัยซึ่งเรียนจบชั้นม.6 มาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โดยมีผลสอบ CU-TEP+Speaking 115 คะแนน และยังมีผลสอบ CU-AAT 1,150 คะแนน ส่วนคนที่สองชื่อนางสาวริศาซึ่งเรียนจบ Grade 12 จากโรงเรียนนานาชาติเอกมัย โดยมีผลสอบ IELTS 7.0 และยังมีผลสอบ SAT 1,190 คะแนน ในกรณีนี้ทั้งสองคนถือว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน แม้จะไม่ได้สอบข้อสอบเดียวกันเลยแม้แต่ตัวเดียว! ส่วนใครจะได้รับเลือกให้ศึกษาต่อก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของหลักสูตรต่อไป
การเตรียมตัวสอบเข้าอินเตอร์ใช้เวลานานไหม
โดยปกติแล้ว หลักสูตรอินเตอร์มักจะเปิดรับสมัครช่วงต้นปี โดยเดือนมกราคมเป็นเดือนที่หลักสูตรอินเตอร์ต่างๆในประเทศไทยเปิดรับสมัครกันมากที่สุด (แม้บางหลักสูตรอาจเปิดเร็วกว่านั้น 2-3 เดือน หรือช้ากว่านั้น 2-3 เดือน แต่ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในช่วงเดือนมกราคม) นั่นหมายความว่าผู้สมัครสอบจะต้องมีผลสอบต่างๆตามที่แจ้งไว้ด้านบน 3 ข้อครบถ้วนแล้ว ซึ่งการเตรียมตัวสอบนั้นควรจะเตรียมตัวตั้งแต่ 2 ปีก่อนเรียนจบ เนื่องจาก
1. ผลสอบต่างๆมักจะเก็บไว้ได้ 2 ปี เช่น SAT, IELTS, TOEFL, CU-TEP, CU-AAT ดังนั้นหากเราเตรียมตัวและไปสอบไว้ก่อน หากได้คะแนนไม่ดีก็สอบใหม่ แต่หากได้คะแนนดีก็สามารถนำไปยื่นในอีก 1-2 ปีข้างหน้าได้เลย
2. ข้อสอบที่ใช้สอบเข้าอินเตอร์นั้นมีเปิดสอบตลอดทั้งปีและไม่จำกัดอายุผู้สอบ ใครเตรียมตัวก่อนมีโอกาสได้สอบหลายรอบกว่า โดยข้อสอบ IELTS, TOEFL, CU-TEP, TU-GET มักจะเปิดสอบทุกเดือน (ยกเว้น CU-TEP+Speaking ที่เปิดสอบ 6 ครั้งต่อปี) ในขณะที่ข้อสอบ SAT/ SAT Subject Test เปิดสอบในเดือน 1, 5, 6, 10, 11, 12 ข้อสอบ CU-AAT เปิดสอบในเดือน 1, 7, 10, 11, 12 และข้อสอบ CU-ATS เปิดสอบในเดือน 1, 7, 12
3. คะแนนที่ดีที่สุดมักจะไม่ได้มาจากการทำสอบครั้งแรก (ใครเตรียมตัวก่อน มีโอกาสสอบมากกว่าก็ได้เปรียบ)
4. หากเตรียมตัวช้า เช่น รู้ตัวว่าอยากเรียนอินเตอร์ตอนเปิดเทอมม.6 (เดือนพฤษภาคม) นั้นหมายความว่าเรามีเวลาเตรียมตัวและสอบข้อสอบต่างๆให้ครบเพียง 6-7 เดือนเท่านั้น ซึ่งจะเสียเปรียบคนที่เตรียมตัวล่วงหน้ามาก่อนเพราะมีโอกาสไปสอบข้อสอบต่างๆได้หลายรอบ (และมีโอกาสได้คะแนนดีกว่า)
ยื่นสมัครหลักสูตรอินเตอร์หลายๆแห่งได้ไหม
สามารถทำได้ และผู้เขียนเชื่อว่าผู้สมัครเกือบทุกคนก็มักจะทำเช่นนั้น เนื่องจากหลักสูตรต่างๆมักจะต้องการผลสอบเหมือนๆกัน เช่น SAT, IELTS, TOEFL ฯลฯ ดังนั้นเมื่อสอบได้คะแนนมาแล้ว ผู้สมัครก็มักจะสมัครไปหลายๆหลักสูตรเพื่อโอกาสในการสอบติดที่มากขึ้น โดยการยื่นสมัครหลายหลักสูตรนี้ไม่ตัดสิทธิผู้สมัครในหลักสูตรอื่นๆ (คนคนเดียวสามารถสอบติดได้หลายหลักสูตร)