10 สุดยอดมหานครในโลกวรรณกรรม

นิยามอย่างเป็นทางการของ‘มหานคร’คือเมืองที่มีประชากรสิบล้านคนขึ้นไป แต่หากใช้กฎเกณฑ์นี้เพียงอย่างเดียว กรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักรก็จะไม่เข้าข่ายการเป็นมหานครนัก เพราะประชากรอย่างเป็นทางการไม่ถึงสิบล้านดี ขณะที่เมืองลาฮอร์ของปากีสถานหรือลากอสของไนจีเรียจะถือว่าเป็นมหานคร เพราะมีประชากรเกินสิบล้านคนไปแล้วแม้จะด้อยพัฒนากว่าและมีนัยยะของความเป็นมหานครน้อยกว่าลอนดอนก็ตาม

การพิจารณาว่าเมืองไหนเป็นมหานครหรือไม่จึงมักไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเลขประชากรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะมหานครคือพื้นที่ที่เต็มไปด้วยชีวิตและเรื่องราวของผู้คนที่อัดแน่นกันในพื้นที่แค่ไม่กี่ตารางกิโลเมตร ซึ่งให้ความหมายมากมายกว่าตัวเลข มหานครเป็นที่มาของแรงบันดาลใจ ความคิดสร้างสรรค์ หรือแม้แต่การทำลายล้างมากมาย

ต่อไปนี้เป็น 10 สุดยอดวรรณกรรมที่มีมหานครสุดสร้างสรรค์เป็นพื้นหลัง เต็มไปด้วยเนื้อเรื่องและตัวละครที่น่าสนใจชวนติดตาม

1. A Tale of Two Cities โดย Charles Dickens
ฉากชาวสลัมแย่งกันดื่มไวน์จากถังซึ่งเป็นฉากเปิดของวรรณกรรมเรื่องนี้สามารถบอกคุณได้ทันทีว่าเรากำลังอยู่ในมหานครยักษ์ใหญ่อย่างปารีส ผู้เขียนใช้ตัวหนังสือวาดภาพปารีสยุคก่อนปฏิวัติและลอนดอนยุควิกตอเรียนในเรื่องได้อย่างหนักแน่นและได้อรรถรส แม้ว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงอยู่บ้างก็ตาม
2. The Bees โดยLaline Paull
รังผึ้งมักถูกใช้เป็นอุปมาอุปมัยเปรียบเทียบมหานครขนาดใหญ่อันแออัดหลายต่อหลายครั้ง แต่ใน The Bees ของ Laline Paull นั้นเป็นเรื่องราวของมหานครในรังผึ้งจริงๆ คุณจะได้ติดตามชีวิตของ ‘Flora 717’ ผึ้งงานระดับต่ำสุดของฝูงที่ต้องออกผจญภัยมากมาย ทั้งที่ในแบบที่คุณคาดถึงและคาดไม่ถึงว่าผึ้งตัวหนึ่งจะสามารถทำได้


3. Five Star Billionaire โดย Tash Aw
วรรณกรรมเรื่องนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของวรรณกรรมชีวิตคนเมืองที่แท้จริง Five Star Billionaire เป็นเรื่องราวของชาวมาเลเซียหกคนที่ย้ายถิ่นฐานไปยังเซี่ยงไฮ้ ทว่าท่ามกลางฉากหลังอันสับสนวุ่นวายและเร่งรีบของมหานครที่ใหญ่ที่สุดของจีนแห่งนี้ พวกเขากลับพบว่าตัวเองต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ผู้คนหลายล้านคนต่างแปลกแยกและขาดปฏิสัมพันธ์ต่อกันอย่างไม่น่าเชื่อ
4. The Horse and His Boy โดย CS Lewis
ตัวละครหลักของเรื่องนี้เดินทางท่องเที่ยวตลอดเวลา และเมืองแฟนตาซีเมืองหนึ่งที่พวกเขาได้ไปเยือนก็คือ ‘Tashbaan’ ซึ่งในเรื่องถูกขนานนามว่าว่าเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก แต่เมื่อพวกเขาได้เข้าไปข้างในแล้วกลับพบว่ามหานครแห่งนี้มันเต็มไปด้วยผู้คนที่ไม่อาบน้ำ สัตว์เลี้ยงแสนสกปรก กลิ่นเหม็นอันอบอวลมีกระเทียม หัวหอม และกองขยะมากมายตลอดทาง ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นสภาพที่คล้ายคลึงกับมหานครในโลกแห่งความเป็นจริงมากทีเดียว
5. Saturday โดย Ian McEwanSaturday
เป็นเรื่องราวของแพทย์ศัลยกรรมคนหนึ่งที่ใช้เวลาหนึ่งวันท่องไปในใจกลางมหานครลอนดอน โดยตัวเขาต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการจราจรอันติดขัด การผ่าตัดสมอง การขโมยของ การเล่นสควอช ไปจนถึงสงครามอิรัก ได้อ่านเรื่องนี้แล้วคุณจะพบว่าใน 24 ชั่วโมงของชีวิตคนๆ หนึ่งนั้นสามารถเกิดเรื่องราวอันชุลมุนวุ่นวายและชวนคิดได้เยอะแยะแค่ไหน
 6. The Carnivorous City โดย Toni KanThe Carnivorous City
เป็นเรื่องราวของ ‘Abel’ ชายคนหนึ่งจากชนบทของไนจีเรียที่ต้องเข้ามาผจญภัยในมหานครลากอส เมืองใหญ่แห่งทวีปแอฟริกา เพื่อตามหาน้องชายของเขาซึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับ เนื้อเรื่องจะค่อยๆ เปิดโปงความเป็นไปของสังคมไฮโซ แก๊งอาชญากร และสังคมลับของมหานครแห่งนี้ ซึ่งคุณจะได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กับตัวละคร
7. Batman โดย DC Comics
คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า Gothamเป็นมหานครในจินตนาการที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เมื่อเอ่ยชื่อ ใครๆ ก็ต้องรู้จักไม่มากก็น้อยผ่านหนังและวรรณกรรมซูเปอร์ฮีโร่ยอดฮิตอย่าง ‘Batman’ ความหม่นหมองของมหานครแห่งนี้สอดรับกับซูเปอร์ฮีโร่ผู้เยือกเย็นและออกช่วยเหลือคนในเวลากลางคืนได้เป็นอย่างดี
8. Clear Light of Day โดย Anita Desai
ท่ามกลางความเคลื่อนไหวในกรุงเดลีอันซอกแซกจอแจ ตึกรามบ้านช่องใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายไม่เว้นแต่ละวันแต่ยังมีครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังเก่าที่ทรุดโทรมจนใกล้จะพังอย่างสันโดษ และความจริงของพวกเขากับความจริงของโลกภายนอกดูเหมือนจะไม่เป็นสิ่งเดียวกันเท่าไรนัก Clear Light of Day ไม่ใช่หนังสือประวัติศาสตร์ แต่เป็นการถ่ายทอดอารมณ์อย่างสมจริง ซึ่งจะทำให้คุณมองเห็นว่าสังคมๆ หนึ่ง หรือประเทศๆ หนึ่ง สามารถถูกแบ่งแยกด้วยความแตกต่างศาสนาและวัฒนธรรมได้อย่างไรบ้าง
9. My Name Is Red โดย OrhanPamuk
หลังจากตัวละครหนึ่งถูกฆาตกรรมในอิสตันบูล คุณจะได้ท่องไปในมหานครของตุรกีผ่านเทคนิคการเล่าเรื่องที่น่าสนใจและคาดไม่ถึง ทั้งการเล่าเรื่องผ่านเหรียญ ศพ และสีแดง สุดท้ายคุณจะพบว่าไม่มีใคร วัตถุใดๆ หรือแนวคิดไหนที่ย่างเยื้องเข้ามาในเขตมหานครแล้วจะผ่านพ้นออกไปได้โดยไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงได้เลย
  10. Everything Good Will Come โดย Sefi Atta
วรรณกรรมเกี่ยวกับมหานครลากอสอีกเรื่องที่คุณไม่ควรพลาด Everything Good Will Come ถ่ายทอดชีวิตของเด็กผู้หญิงสองคนที่เจอในลากอสยุค 60s คุณจะได้เห็นว่ามหานครแห่งนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วไปพร้อมๆ กับการเติบโตของพวกเธอ เมืองและความสัมพันธ์ของทั้งสองต่างผ่านพ้นความยากลำบากมามากมาย ทั้งสงครามกลางเมือง ยุคตื่นน้ำมัน และเผด็จการทหาร กลายเรื่องราวสุดคลาสสิกที่คุณอาจหาอ่านไม่ได้จากวรรณกรรมเล่มอื่นๆ

แหล่งข้อมูลและแหล่งภาพ : https://www.theguardian.com/books/2017/jan/18/top-10-megacities-in-fiction