ทำไมออสเตรเลียถึงน่าไปเรียนภาษา?
หากจะกล่าวถึงประเทศออสเตรเลีย เราๆท่านๆคงนึกถึงอากาศร้อนๆ ตัวจิงโจ้ และฝรั่งพูดอังกฤษสำเนียงแปร่งหูนิดหน่อย
แต่ก็นั่นแหละฮะ ท่านผู้ชม ทำไมออสเตรเลียจึงมีเสน่ห์ที่นอกจากจะน่าไปเที่ยวแล้ว คนไทยที่อยากฝึกปรือภาษาอังกฤษให้พอต่อกรกับชาวบ้านต่างชาติได้ก็มักนิยมมาเรียนที่ดินแดนแห่งจิงโจ้กันมากมาย
ประเด็นแรกที่พอจะวิเคราะห์จากสมองน้อยๆของกระผมก็คือ ความมีกลิ่นอายของการเป็นอังกฤษครับ อย่าลืมนะครับนอกจากที่แห่งนี้จะเคยเป็นที่อยู่ของชาวอะบอริจินส์(ชาวพื้นเมืองดั้งเดิม)และส่วนหนึ่งคือ สถานที่ส่งนักโทษจากสหราชอาณาจักรมาจองจำที่นี่ โดยเฉพาะแถวนิวเซาท์เวลส์ นั่นแปลว่านักโทษทั้งหลายคือทูตทางภาษาของดินแดนแห่งนี้ครับนับตั้งแต่บัดนั้นภาษาอังกฤษก็เริ่มแพร่หลายมีการใช้กันในวงกว้าง
แม้จริงๆแล้วในออสเตรเลียจะมีภาษาที่แตกต่างกันถึง 250ภาษาก็ตาม แต่อย่าลืมนะครับสมัยก่อนโน้นชาวยุโรปเป็นนักล่าอาณานิคมย่อมถ่ายทอดวัฒนธรรมของตนให้ชนในท้องถิ่นได้นำไปใช้ปฏิบัติกันอย่างไม่ต้องสงสัย
ประกอบกับชนพื้นเมืองดั้งเดิมที่ดูหน้าละม้ายมาแถบๆอาเซียนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คนไทยไปบางเมืองอาจจะรู้สึกอบอุ่นเพราะอาจเจอคนไทยเยอะมากเช่นเมืองเมลเบิร์น ติดปัญหาอะไรก็อาจหาคนไทยที่นั่นช่วยคุณได้
tim cahill
zico เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
ประเด็นที่สองคือเรื่องความหลากหลายทางเชื้อชาติ ที่นั่นมีความแตกต่างทางเชื้อชาติกันอย่างมากมาย เราอาจจะเห็นคนออสซี่ที่หน้าคล้ายๆคนไทย หรือคนออสซี่ที่หน้าเกาลี้เกาหลี นั่นก็เพราะมีการอพยพของทั้งชาวเอเชียเข้าไปตั้งรกรากอยู่เป็นจำนวนมาก
นักศึกษาชาวเอเชียไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลีย คนไทยสองคน เกาหลีและญี่ปุ่นอย่างละ 1 คน
ประเด็นที่สามคือเรื่องอากาศและภูมิศาสตร์ครับ ที่นั่นอากาศมีความแตกต่างกันของอุณหภูมิอยู่พอสมควร เราชอบแบบไหนอยากหนาวติดลบหรือร้อนตับแตกออสเตรเลียมีหมด ดังนั้นก่อนไปศึกษาก่อนนะครับ เมืองที่เราจะไปในเดือนนั้นๆอุณหภูมิประมาณเท่าไร ต้องเตรียมชุดว่ายน้ำไปไหม
ประเด็นที่สี่คือเรื่องความเจริญและความสวยงามของเมือง ข้อนี้ไม่มีใครปฏิเสธเรื่องความงดงามของเมืองมหานครซิดนีย์ ความทันสมัย สิ่งอำนวยความสะดวกเรียกว่าไปก็ไม่อดไม่อยากล่ะครับ แต่เตรียมเงินไปเยอะๆหน่อยนะครับของมันแพง ฮาาา
Night View Australia
Sydney View at Night
เขียนมาถึงตรงนี้เริ่มชักอยากไปออสเตรเลียกันแล้วใช่ไหมล่ะครับ ผมมีลิงค์แนะนำการเรียนภาษาที่นั่นให้เผื่อใครสนใจเพิ่มเติมนะครับแล้วพบกันใหม่บทความหน้าครับ
สวัสดีครับ
ขอขอบคุณที่มาบทความจาก Joint Education