4 วิธีปลุกความคิดสร้างสรรค์ในตัวคุณ
ความคิดสร้างสรรค์กำลังเป็นที่ต้องการของทุกภาคส่วนบนโลกนี้ การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและธุรกิจซื้อขายออนไลน์ทำให้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์เป็นที่ต้องการ มีโอกาสด้านการทำงานหลั่งไหลเข้ามาหามากมาย
แต่ทำอย่างไรคุณถึงจะมีความคิดสร้างสรรค์และโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ ล่ะ?
ศิลปินหลายคนพยายามหากุญแจลับเพื่อไขสู่ความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองมาหลายศตวรรษ และต่อไปนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาค้นพบ (แต่มันก็ไม่แน่ว่าจะใช้ได้กับคนทุกคนเสมอไป)
1. ไม่ทำอะไรเลย
ใช่แล้ว ไม่ทำอะไรเลย … ไม่ทำอะไรเลยจริงๆ โดยเฉพาะถ้าเป็นคนยุ่งหัวฟูตลอดเวลา ลองหันมาหาวันหยุดให้ตัวเองเพื่อที่จะนั่งเฉยๆ ริมชายหาดหรือริมสระสักหน่อย หรือถ้าหาวันหยุดไม่ได้จริงๆ อย่างน้อยก็ลองหาเวลาว่างสักวันหรือครึ่งวันตัดขาดจากผู้คนเพื่ออยู่กับตัวเองดูบ้าง เพราะงานการและโปรเจ็กต์ต่างๆ มากมายในแต่ละวันมักทำให้สมองไม่มีเวลาว่างพอให้ความคิดสร้างสรรค์เล็ดลอดออกมาได้ เพราะฉะนั้น จำเป็นต้องเบรกบ้าง
ไม่ต้องทำอะไร นั่งนอนเฉยๆ ไปเรื่อยๆ จนตัวเองเบื่อ พอเบื่อแล้วอาจจะเริ่มถามตัวเองว่า “นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่?” ช่วงนี้แหละที่ความคิดสร้างสรรค์และไอเดียต่างๆ จะเริ่มพรั่งพรูออกมา ลองดูสิ
2. จด
จดให้เป็นนิสัย เช่น ในตอนเช้า บังคับตัวเองให้เขียนบันทึกเกี่ยวกับอะไรก็ได้วันละสามหน้า เมื่อเกิดไอเดียขึ้นในหัวระหว่างวัน ไม่ว่าจะไอเดียเล็ก ไอเดียใหญ่ ไอเดียแจ่ม หรือไอเดียเจื่อน คุณควรจะจดมันลงไปเช่นกัน คุณจะใช้แอพฯ มือถือช่วยจดหรือจะจดลงสมุดบันทึกจริงๆ ก็ได้ ขอเพียงแค่จด หรือจะใช้วิธีอัดเสียงตัวเองเก็บไว้ก็ยังได้
หลายๆ ครั้งไอเดียจะบรรเจิดขณะคุณกำลังทำกิจกรรมอย่างอื่นอยู่ เช่น ขับรถ อาบน้ำ ทำอาหาร ทำสวน ฯลฯ เพราะกิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้คุณมีสมาธิมากขึ้น ความคิดของคุณจะเป็นอิสระมากขึ้น และนั่นคือบ่อเกิดของความคิดสร้างสรรค์
3. ใส่ใจกับความฝัน
ถ้าคุณคิดว่าความฝันของคุณไม่มีความหมายอะไรเลย โปรดจงคิดใหม่! การสังเกตและศึกษารูปแบบ ตลอดจนการพยายามตีความฝันในแต่ละคืนของคุณเองอาจทำให้คุณกลายเป็นอัจฉริยะของโลกคนใหม่เลยก็ได้ เพราะนักคิดและนักวิทยาศาสตร์ระดับตำนานอย่าง ‘อัลเบิร์ต อัลสไตน์’ ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพได้ก็จากฝันของเขานี่แหละ
ตัวอย่างอื่นๆ ของงานศิลปะหรืองานประดิษฐ์สำคัญๆ ที่เกิดขึ้นมาจากการฝันก็เช่น เลื่อยไฟฟ้า หนังเรื่องคนเหล็ก (The Terminator) ดีเอ็นเอแบบเกลียวคู่ ตารางธาตุ และอื่นๆ อีกมากมาย
4. หัวเราะ
หลักฐานมากมายระบุว่าคนที่มีอารมณ์ขันนั้นมีแนวโน้มที่จะมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าคนทั่วไป อย่างการฟังอะไรตลกๆ ก่อนที่จะเข้าห้องสอบที่อาจช่วยเพิ่มคะแนนสอบของคุณได้
นอกจากความผ่อนคลายจากเสียงหัวเราะจะทำให้คุณมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นแล้ว สารเอ็นโดรฟินที่หลั่งมาพร้อมกับการหัวเราะยังช่วยให้คุณสมองปลอดโปร่งมากขึ้น คิดนอกกรอบได้มากขึ้น ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมากในกระบวนการสร้างสรรค์และแก้ปัญหา ยิ่งไปกว่านั้น งานวิจัยยังพบว่าพนักงานที่เป็นคนตลกมักถูกมองว่ามีคุณค่าต่อองค์กรมากกว่าพนักงานทั่วไปอีกด้วย
ช้าก่อน! ไม่จำเป็นต้องผันตัวไปเป็นตลกหรือศิลปินเพื่อให้มีความคิดสร้างสรรค์หรอก แค่ต้องพยายามทะนุถนอมรักษามุมสร้างสรรค์ของตัวเองเอาไว้ให้ได้ เพราะคนจำนวนมากทิ้งมันไปแล้วตั้งแต่ชีวิตวัยประถม
สุดท้าย ขอฝากไว้ว่าความคิดสร้างสรรค์ก็คล้ายๆ กับกล้ามเนื้อหนึ่งของเรา ยิ่งฝึกบ่อยก็ยิ่งแข็งแรง ความคิดสร้างสรรค์ที่โดดเด่นเป็นประโยชน์ต่อทั้งหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัวของคุณเองในระยะยาว
แหล่งข้อมูล : https://www.entrepreneur.com/article/246080
และเว้ปไซต์ www.tkpark.or.th