Home School
เป็นการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานที่พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง เป็นผู้รับผิดชอบจัดการศึกษาด้วยตนเอง เป็นระบบของการบูรณาการการเรียนรู้ที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้จากวิถีชีวิตจริงจากทุกสถานที่ และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ปฏิบัติในชีวิตประจำวัน มุ่งให้โอกาสผู้เรียนได้ทำในสิ่งที่สนใจ เพื่อการค้นพบความถนัดและความสามารถของตนเอง ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ หลาย ๆ ครอบครัวจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อการพัฒนาทักษะชีวิต และความฉลาดทางอารมณ์ นำไปสู่การเป็นผู้คิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาเป็น รู้วิธีการเรียนรู้ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือของการศึกษาตลอดชีวิต ซึ่งประเทศไทยรับรองการจัดการศึกษาในรูปแบบนี้ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
เตรียมความพร้อมของพ่อแม่
เตรียมหาความรู้
เนื่องการจากเรียนในระบบนี้ เป็นการศึกษาที่พ่อแม่เป็นผู้จัดการศึกษาขึ้นเอง ตามแนวทางหลักสูตรที่ถูกกำหนดไว้ โดยมุ่งเน้นไปที่การสอนตามความสนใจของตัวเด็กเป็นสำคัญ โดยพ่อแม่คอยช่วยเหลือชี้แนะ ซึ่งการที่พ่อแม่จะจัดแนวทางการศึกษาที่เหมาะสม และตอบโจทย์การเรียนรู้ของลูกได้ พ่อแม่จะต้องเป็นคนที่ใฝ่รู้ และสามารถส่งต่อความรู้ที่มีได้
มีความแน่วแน่
ก่อนการตัดสินใจเข้าสู่ระบบการศึกษานี้ พ่อแม่ควรทำความเข้าใจและศึกษาถึงระบบนี้ให้ดีเสียก่อน และเมื่อตัดสินใจแล้ว พ่อและแม่จะต้องมีความตั้งใจ ชัดเจนหนักแน่น และมองเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ต้องสำรวจความพร้อมของคุณพ่อและคุณแม่ด้วยว่ามีจิตใจมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ครูของลูก สามารถให้เวลากับการเรียนรู้ของลูกอย่างเต็มที่ มีความพร้อมที่จะเรียนรู้ร่วมไปกับลูกแล้วหรือไม่ เพราะพ่อแแม่ถือเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการศึกษาในระบบนี้
มีเวลา
พ่อและแม่ต้องสามารถจัดการเวลาที่อยู่ให้ได้ ต้องพร้อมที่จะให้เวลาคุณภาพกับลูก ให้เวลาในการอบรมบ่มนิสัยลูก ให้เวลาในการจัดกิจรรมการเรียนรู้ของลูกในแต่ละวัน ที่สำคัญต้องมีเวลาในการวางแผนการเรียนรู้ และสามารถจัดสภาพแวดล้อมของบ้านให้เอื้อต่อการเรียนรู้ได้ อีกทั้งยังควรมีเวลาที่จะพาลูกออกไปทำกิจกรรมที่เอื้อให้ลูกได้มีปฏิสัมพันธ์กับเด็กอื่น ๆ ด้วย เพื่อมีสร้างทักษะทางสังคม
ไม่ว่าพ่อแม่จะตัดสินใจให้ลูกเข้าสู่ระบบการศึกษาแบบใด สิ่งสำคัญที่อยากให้พ่อแม่ได้ระลึกไว้ ก็คือ การให้ลูกได้เรียนรู้ในสิ่งที่เขาชอบและมีความสุข เพราะการเรียนรู้ที่มีความสุข ย่อมก่อให้เกิดความเข้าใจและนำไปใช้ในชีวิตได้เสมอ